กันลืมเหมือนกันครับ หลังจากที่ต้องเตรียมทำโปรเจกต์ เริ่มต้นกับอีกหนึ่งภาษาที่ต้องเรียนรู้ นั่นก็คือ Ruby ไม่เคยเขียนภาษานี้มาก่อนเลยครับ
มาเริ่มต้นพร้อมๆกันนี่แหละ ก่อนอื่นก็มาลง Ruby กันก่อน สำหรับวินโดว์ก่อนอื่นเข้าไปโหลดที่ https://www.ruby-lang.org/en/downloads/
ของผมใช้ Windows 7 นะครับ ตัวอื่นก็คล้ายๆกัน ลงได้เหมือนกัน
บางทีอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ไม่เป็นรัยนะครับ ติ๊กเลือกให้หมดเลยละกัน อิอิอิ
แล้วเราก็รอๆๆๆ รอจนมันเสร็จ แป๊บเดียวเองนะครับ ไม่น่านานมากเท่าไหร่ ของผมลงไม่กี่วินาทีก็เสร็จแระ
หลังจากที่ลงเสร็จแระ สิ่งที่ขาดกันไม่ได้เลยคือ Rails เพราะถ้ามี Ruby อย่างเดียวก็คงใช้งานไม่ได้ ประมาณว่า ขาดกันไม่ได้นั่นแหละครับ
และที่สำคัญ Ruby ต้องเรียกใช้ผ่าน Command prompt อันดับแรกลองพิมพ์
ruby --version
(ใน command prompt เพื่อดูเวอร์ชั่นนั่นเองครับ และก่อนจะลง Rails ให้ทำการอัพเดทก่อนโดยพิมพ์)
gem update
บางครั้ง อาจจะอัพเดทไม่ได้ เพราะเราใช้เวอร์ชั่นล่าสุดแล้วนั่นเอง ไม่เป็นรัยครับ ไม่ต้องตกกะใจ
เราข้ามมายังขั้นตอนต่อไปได้เลย ต่อมาหลังจากที่ gem เราเป็นตัวล่าสุดเเล้ว เราก็มาทำการติดตั้ง rail โดยใช้คำสั่ง
gem install rail --include-dependencies
ระหว่างนี้ก็ไปหาอะไรมากระแทกปาก(กิน)กันก่อน อาจจะนานนิดนึง คงจะอิ่มพอดีนั่นแหละครับ
เสร็จแล้วก็ลองมาทำให้ rails ทำงานกัน ก่อนอื่นผมสร้าง directory ชื่อ rails ขึ้นมาก่อนโดยใช้คำสั่ง md rails แล้วเข้าไปใน directory โดยใช้คำสั่ง cd rails (โอ้ว dos เมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้ก็ยังได้ใช้อยู่) แล้วทำการสร้าง web application โดยใช้คำสั่ง rails [ชื่อ web ที่ต้องการ] ผมลองสร้าง web app ชื่อ test
เนื่องจาก rails เป็น frame work สำหรับเขียนเว๊ป แล้วการทำงานกับเว๊ปก็ต้องมี server ใน rails จะมี web server ชื่อ WEBrick มาให้ซึ่งก็พอใช้งานทั่วๆ ไปได้ในระดับหนึ่งหรือถ้าต้องการใช้งานในระดับใหญ่ๆ เราก็สามารถใช้ apache เป็น web server แทนก็ได้ ส่วนวิธีการตั้งค่าสำหรับ apache นั้น ผมยังทำไม่ได้เหมือนกัน คิดว่าคงต้องใช้ Camel หรือ ActiveMQ แทน คล้ายๆ Tomcat ไว้เขียน JSP ล่ะครับ
เพราะฉะนั้นเราก็ต้องลง ที่กล่าวมานั้นก่อนนะครับ ทั้งนี้เพื่อเป็นการจำลองเครื่องตัวเองเป็นเซิฟเวอร์ด้วยนั่นเอง ไปติดตามอ่านในวิธีการติดตั้งอีกที ผมจะใช้ Apache นะครับ(บทความต่อไป)
วิธีการรัน WEBrick ทำได้โดยต้องเข้าไปที่ directory ของ web app ที่เราต้องการรันก่อน แล้วพิมพ์คำสั่ง ruby script\serverจากนั้นก็รอสักพัก อ้อบางครั้งตัว gem ของเราไม่ใช่ตัวล่าสุดก็รันไม่ได้นะครับ แต่ไม่ยากแค่ใช้คำสั่ง gem update –system แค่นี้ gem ของเราก็เป็นตัวล่าสุดแล้ว
ถ้าหากรัน server ได้ จะมีข้อความว่า WEBrick::HTTPServer#start :pid=xxxx port=3000 (เลข process id จะไม่ตรงกันสักครั้ง) ค่าเริ่มต้นตรง port ของ WEBrick จะเป็น 3000 นะครับ ถ้าหากไม่มี web server ตัวอื่นๆ ใช้งานอยู่สามารถเปลี่ยนเป็น 80 ได้
เราก็มาทดลองว่าสามารถรันได้จริงๆ ไหมโดยเปิด browser ขึ้นมาแล้วพิมพ์ https://localhost:3000 ถ้าหากได้ผลดังภาพก็แสดงว่าใช้งานได้ล่ะครับ
ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ลองเล่นดูแล้วจะรัก ruby ขึ้นมากเลยทีเดียว ตอนนี้งานในเมืองไทยอาจจะยังมีไม่เยอะ แต่อีกหน่อยน่าจะมาแรงแซง PHP เจ้าตลาด (ในเมืองไทย) ได้แน่นอนครับ